-
Destinations
- แอฟริกา
- เอเชีย
- ออสตราเลเซีย
- แถบขั้วโลก
-
ลาตินอเมริกา
- Holidays
- Honeymoons
- Travel Inspiration
- About
โอกาสในการพบเจอสัตว์ป่าต่างๆ ในเคนย่ามีเกือบตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามายังเคนย่ามากที่สุด มักจะอยู่ระหว่างเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม เนื่องจากเป็นฤดูกาลอพยพครั้งใหญ่ของบรรดาวิลเดอบีสต์และม้าลายที่เดินทางข้ามชายแดนของแทนเซเนียมาสู่พื้นที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า สำหรับช่วงที่มีโอกาสจะพบสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์และถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด คือตั้งแต่สิ้นสุดฤดูแล้งในเดือนกรกฎาคมไปจนถึงตุลาคม และอีกครั้งหนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์หลังฝนตกระยะสั้น ส่วนช่วงที่มีฝนและหลังฝนหยุดตกใหม่ๆ การส่องสัตว์จะเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงกรีนซีซั่น นั่นหมายถึงพืชต่างๆ ได้รับน้ำเพียงพอจนเจริญเติบโตเต็มที่ และบดบังการมองเห็นสัตว์ทั้งหลายจากสายตามนุษย์อย่างเรา
เคนย่าถือเป็นประเทศที่มีอากาศอบอุ่น อุณหภูมิเฉลี่ยโดยของทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 23-26 องศาเซลเซียส ในฤดูหนาว (เดือนมิถุนายน – กันยายน) อากาศจะเย็นลงในช่วงหัวค่ำและเวลากลางคืน ซึ่งอุณหภูมิสามารถลดลงไปได้ถึง 7 องศาเซลเซียสในบริเวณที่สูง สำหรับบริเวณชายฝั่ง ตามปกติอากาศจะค่อนข้างร้อนกว่าบนแผ่นดินใหญ่ เนื่องมาจากระดับความชื้นและอุณหภูมิผิวน้ำทะเลจะอยู่ที่ 23-27 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี โดยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม สภาพแวดล้อมใต้ทะเลจะเหมาะแก่การดำน้ำเป็นอย่างมาก และหากพูดถึงช่วงที่อากาศจะร้อนที่สุด จะอยู่ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเวลาที่ดีในการมาตามหาสัตว์ป่าที่มีชื่อเสียงของแอฟริกา ท่านอาจได้เห็นภาพความขัดแย้งระหว่างผู้ล่าและเหยื่อใกล้บริเวณแหล่งน้ำ เนื่องจากน้ำกลายเป็นสิ่งหายากและสัตว์ต่างๆ ล้วนกระหายไม่ต่างกัน
ต้องขอบคุณฝนที่ตกระยะสั้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนและต้นธันวาคมที่ผ่านมา เพราะมันทำให้ทั้งประเทศกลายเป็นโทนสีเขียวสว่างสดใส ซ้ำยังเอื้อต่อการส่องสัตว์ป่าตามอุทยานแห่งชาติและเขตป่าสงวน เช่น บริเวณรอบทะเลสาบนาคูรู แซมบูรู ทะซาโวฝั่งตะวันตกและตะวันออกอีกด้วย และถึงแม้ว่าฝูงสัตว์อพยพจะเดินทางกลับไปยังอุทยานแห่งชาติเซเรงเกติของแทนเซเนียแล้ว บริเวณทุ่งโล่งที่ต้นหญ้าเพิ่งขึ้นไม่สูงจากพื้นดินนัก ก็จะคลาคล่ำไปด้วยบรรดาสัตว์ต่างๆ ให้เราได้ยลโฉม เช่นเดียวกับเป็นโอกาสอันดีสำหรับคนที่ชอบดูนก เพราะนกพเนจรจำนวนมากจะพากันมาแสวงหาอากาศอบอุ่นของเคนย่าในฤดูนี้
สำหรับบริเวณที่ควรค่าแก่การมาเยือนในเดือนมกราคมนั้น คืออุทยานแห่งชาติแอมโบเซลี เพราะเป็นช่วงที่สัตว์ต่างๆ จะมาเกาะกลุ่มกันตามทุ่งหญ้า โดยมีฉากหลังเป็นภาพของเทือกเขาคิลิ
มันจาโรที่สูงสง่า บรรดาช่างภาพจะต้องโปรดปรานเดือนนี้ เพราะจะได้บันทึกภาพอันงดงามของฝูงสัตว์ที่กำลังเล็มหญ้ากลางที่ราบ ในขณะที่ริมชายฝั่ง นี่เป็นช่วงเวลาที่สภาพแวดล้อมใต้ท้องทะเลเคนย่าเอื้ออำนวยกับการดำน้ำดูปะการังเดือนหนึ่งลยทีเดียว
กุมภาพันธ์เป็นอีกหนึ่งเดือนที่เหมาะแก่การมาเยือนเคนย่าไม่น้อย เนื่องจากพื้นที่ป่ายังคงเป็นสีเขียวอันเป็นผลมาจากฝนระยะสั้นที่ตกก่อนหน้า และยังทำให้ง่ายต่อการมองเห็นสัตว์ที่ออกหากินตามทุ่งหญ้าซึ่งเป็นที่ราบอีกด้วย ช่วงเวลานี้ คือโอกาสที่ดีในการเล่นเกมล่าสัตว์บริเวณทะเลสาบนาคูรู อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า แอมโบเซลี ทะซาโวฝั่งตะวันตกและตะวันออก ในอุทยานมาไซมาร่า มีโอกาสที่ฝนจะตกอยู่ประปราย เนื่องมาจากมีเขตติดต่อกับแทนเซเนียซึ่งยังคงมีฝนในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ส่วนใหญ่นั้น อากาศตอนกลางวันจะค่อนไปทางแห้งและอบอุ่นเสียมากกว่า สำหรับพื้นที่ตอนบนของเคนย่า การเจริญเติบโตของพืชจะเริ่มชะงักลง ทำให้ง่ายต่อการพบเห็นสัตว์ในการท่องเที่ยวแบบซาฟารี อีกทั้งพวกมันยังจะออกมาอยู่กระจุกรวมกันตามแหล่งน้ำด้วย
อุณหภูมิในเดือนกุมภาพันธ์จะอยู่ที่ประมาณ 25-29 องศาเซลเซียส และลดลงหลังเวลาพระอาทิตย์ตกดินอยู่ที่ 18-20 องศาเซลเซียส ถึงแม้จะเป็นไปได้ยากที่จะรู้สึกหนาวในเดือนนี้ แต่ควรมีการเตรียมเสื้อผ้าให้เพียงพอสำหรับการออกส่องสัตว์ในยามเช้าไว้ด้วย สำหรับสภาพแวดล้อมใต้น้ำของมหาสมุทรอินเดียในเดือนนี้ ก็ยังสามารถดำน้ำลึกและน้ำตื้นได้อย่างสบายๆ ใกล้กับบริเวณชายหาดดิอานี่
ต้นเดือนมีนาคมจะเป็นช่วงที่อากาศร้อน มีแดดออก และเหมาะแก่การท่องเที่ยวซาฟารีเป็นอย่างยิ่ง อุณหภูมิอาจสูงถึง 30 องศาเซลเซียส โดยในบางพื้นที่อย่างอุทยานแห่งชาติแซมบูรูอุณหภูมิอาจสูงถึง 34 องศาเซลเซียส หากเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคมถือเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของเคนย่า ส่วนตอนปลายเดือนจะเป็นช่วงที่คาดเดาสภาพอากาศแน่นอนไม่ได้เพราะเข้าสู่ต้นฤดูฝน ซึ่งทำให้อุณหภูมิลดลงเล็กน้อยแต่ความชุ่มชื้นมีเพิ่มขึ้น
บางครั้งฤดูฝนจะมาช้ากว่าปกติ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะส่งผลให้การท่องซาฟารีในช่วงปลายเดือนมีนาคมกลายเป็นกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นไม่น้อย เพราะบรรดาสัตว์ทั้งผู้ล่าและเหยื่อต่างจะพากันมารวมตัวบริเวณแหล่งน้ำต่างๆ ท่านอาจมีโอกาสเห็นภาพการต่อสู้ตรงหน้าก็เป็นได้ สำหรับระดับอุณหภูมิของน้ำทะเลจะอยู่ที่ประมาณ 27 องศาเซลเซียสในช่วงต้นเดือน โดยสภาพใต้น้ำเวลานี้ จะเอื้อต่อการดำน้ำเป็นอย่างมาก และจะค่อยๆ ลดลงเมื่อหน้าฝนเริ่มต้นขึ้น หากท่านมีความต้องการท่องเที่ยวทางน้ำเพื่อสัมผัสความหลากหลายทางธรรมชาติใต้ท้องทะเล เราขอแนะนำให้มุ่งหน้าไปที่หาดไดอานี่หรือเขตแซนซิบาร์ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของทริปเพื่อลดความเสี่ยงในการเจอกับฝน
เดือนเมษายนคือเดือนที่มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดในรอบปี ดังนั้น นี่อาจไม่ใช่เดือนที่เหมาะกับการมาเยือนเคนย่าเท่าไรนัก สายฝนที่ตกโปรยปรายแทบทั้งวันและทุกวัน ส่งผลให้ทางเข้าอุทยานแห่งชาติหลายแห่งน้ำท่วมและยากต่อการเข้าถึง นอกจากนั้นแล้ว การที่ฝนตกอย่างต่อเนื่องตลอดเวลายังทำให้การส่องสัตว์กลายเป็นเรื่องที่ทำได้ยากกว่าปกติ เพราะสัตว์ต่างๆ จะไม่อาศัยใกล้กับแหล่งน้ำเหมือนที่ผ่านมา แต่กลับอยู่อย่างกระจัดกระจายไปทั่ว หากท่านมีความอดทนในการท่องซาฟารีเพื่อตามหาสัตว์ป่า ท่านจะได้เห็นพวกมันมีปฏิสัมพันธ์กันตามธรรมชาติ โดยเฉพาะบรรดาแม่ๆ กับลูกอ่อนที่เพิ่งเกิดใหม่ ซึ่งเป็นภาพที่งดงามควรค่าแก่การบันทึกไว้เป็นอย่างยิ่ง
อุณหภูมิของเดือนนี้จะอบอุ่นแต่เย็นกว่าเดือนที่ผ่านมาเล็กน้อยเพราะปริมาณของน้ำฝน อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียสและ 25 องศาเซลเซียสโดยเฉลี่ยสำหรับช่วงเวลากลางวัน บริเวณชายฝั่งก็จะได้รับผลกระทบจากฤดูฝนเช่นกัน ซึ่งทำให้เมษายนไม่ใช่เดือนที่ดีนักสำหรับการพักผ่อนท่องเที่ยวทางทะเล แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า สภาพอากาศของเคนย่าเป็นอะไรที่คาดการณ์ยากพอสมควร บางครั้ง เดือนเมษายนก็กลับกลายเป็นเดือนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง อากาศสดใสและมีแดดออก นั่นหมายความว่าพื้นที่ชายหาดทั้งหมดบริเวณนั้น จะตกเป็นของท่านเพียงผู้เดียว
เช่นเดียวกับเดือนที่ผ่านมา พฤษภาคมยังคงเป็นเดือนที่มีฝนตกแรงอย่างต่อเนื่อง ฤดูฝนที่ยาวนานก่อให้เกิดโคลนจำนวนมาก อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเส้นทางในการท่องซาฟารี ผืนดินที่เต็มไปด้วยโคลนทำให้ไม่สามารถท่องเที่ยวตามปกติได้ นักเดินทางอาจต้องใช้ความอดทนค่อนข้างสูงเพื่อออกตามหาสัตว์ป่า เพราะการเจริญเติบโตของผืนป่าเขียวชอุ่มที่มีมากกว่าเดือนอื่นๆ อีกทั้งต้นไม้เหล่านั้นจะบดบังสัตว์ต่างๆ จากการมองเห็นของมนุษย์อย่างมิดชิด แต่อย่างไรก็ดี ในเดือนพฤษภาคมนี้ จะเป็นช่วงที่ลูกเล็กของสัตว์ต่างๆ ติดตามแม่และฝูงไปทุกที่ ดังนั้น หากท่านเลือกการท่องเที่ยวชมป่าซาฟารีในช่วงเวลาดังกล่าว รางวัลที่จะได้รับ ก็คือโอกาสในการชื่นชมห้าสัตว์ใหญ่แห่งแอฟริกาในเวอร์ชั่นของสัตว์ตัวน้อยที่ไร้เดียงสา
อุณหภูมิในเดือนพฤษภาคมจะเย็นลงอีกเล็กน้อย โดยบริเวณอุทยานแห่งชาติต่างๆ รวมถึงมาไซมาร่าอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 26 องศาเซลเซียส ส่วนพื้นที่ริมชายฝั่งอากาศจะอบอุ่นขึ้นแต่ในขณะเดียวกันก็ชื้นแฉะมากกว่าเดิม อุณหภูมิสูงสุดยังคงอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียสซึ่งมาพร้อมกับระดับความชื้นที่สูงไม่ต่างกัน บางโรงแรมและที่พักเลือกที่จะปิดทำการในช่วงเดือนเมษายนจนถึงพฤษภาคมเพราะมีนักท่องเที่ยวมีจำนวนบางตากว่าฤดูอื่นๆ มาก
มิถุนายนถือเป็นเดือนที่สวยงามของเคนย่า ฝนที่ตกต่อเนื่องเป็นเวลานานได้นำพาความชุ่มฉ่ำมาพร้อมกับเฉดสีเขียวสดใสสู่พื้นดินอันแห้งแล้งของประเทศตลอดจนอุทยานแห่งชาติต่างๆ ถึงแม้ว่าต้นไม้ที่เติบโตอย่างหนาแน่นในช่วงที่ผ่านมาจะยังคงเป็นอุปสรรคต่อการส่องสัตว์อยู่บ้าง แต่ภาพที่ท่านจะได้เห็นนั้นคือความเป็นอยู่ตามธรรมชาติของพวกมันจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเสือชีต้าห์ที่วิ่งอย่างว่องไวไปบนทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม เหล่ายีราฟที่เคี้ยวใบไม้ตุ้ยจากยอดต้นไม้สูง หรือโขลงช้างที่เดินทางผ่านอุทยานแห่งชาติแอมโบเซลีโดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาคิลิมันจาโรอันยิ่งใหญ่
อุณหภูมิโดยรวมตลอดทั้งเดือนถือเป็นอากาศแบบสบายๆ สูงสุดที่ 30 องศาเซลเซียสตามบริเวณพื้นที่โล่งแจ้งของอุทยานแห่งชาติ ส่วนบนที่ราบสูงอย่างอุทยานชยูลูฮิลล์อุณหภูมิอาจเย็นกว่าในช่วงกลางวัน (อยู่ที่ประมาณ 23 องศา) และลดลงต่ำได้ถึง 9 องศาในเวลากลางคืน ดั้งนั้น การเตรียมร่างกายให้อบอุ่นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการนั่งรถส่องสัตว์ในช่วงเย็นและเช้าตรู่ หากพูดถึงบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิจะค่อนข้างสูงแต่ก็ยังมีความชื้นในอากาศปะปนอยู่ด้วย ส่วนระดับการมองเห็นใต้ท้องทะเลในเดือนนี้ยังคงไม่ดีนัก โดยมีสาเหตุมาจากฝนที่ตกอย่างรุนแรงในเดือนก่อนได้นำเอาซากปรักหักพังต่างๆ มาสู่ใต้ผืนน้ำ
เดือนกรกฎาคมเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาเยือนเคนย่าอย่างยิ่ง เพราะบรรดาวิลเดอบีสต์และม้าลายกลุ่มแรกจากชายแดนที่ติดกับแทนเซเนีย จะเริ่มทะยอยเดินทางมาถึงพื้นที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า ภาพน่าตื่นเต้นของการอพยพครั้งใหญ่นี้ คือสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาสู่เคนย่าในเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้โรงแรมและที่พักถูกจองอย่างรวดเร็ว พันธุ์ไม้ต่างๆ ตามบริเวณอุทยานแห่งชาติและเขตอนุรักษ์ทั่วประเทศจะหยุดการเจริญเติบโตและเริ่มแห้งตั้งแต่เดือนมิถุนายนแล้ว นั่นหมายถึงโอกาสในการมองเห็นสัตว์ป่าที่ง่ายขึ้นก็กลับมาอีกครั้งด้วยเช่นกัน
อุณหภูมิจะอบอุ่นในเวลากลางวันและเย็นลงในช่วงกลางคืน โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 25-28 องศาเซลเซียสในระหว่างวัน สำหรับบนพื้นที่สูง เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วอากาศจะเย็นขึ้นกว่าเดิมและอาจลดลงถึง 10 องศาเลยทีเดียว ดังนั้น หากท่านมีความต้องการที่จะเดินทางท่องเที่ยวมายังบริเวณเทือกเขาเคนย่า ทะเลสาบนาคูรู หรืออุทยานแห่งชาติชยูลูฮิลล์ โปรดเตรียมเสื้อผ้าอบอุ่นให้เพียงพอต่อการออกเล่นเกมส่องสัตว์ยามเช้าตรู่ บางครั้งอาจยังมีฝนตกบ้าง แต่เป็นลักษณะฝนที่ไม่แรงและไม่นานจนเกินไป นอกจากนั้นแล้ว เดือนนี้จะเป็นเดือนที่โทนสีของภาพรวมทั่วเคนย่าเริ่มกลับมาเป็นสีน้ำตาลอีกครั้ง
สิงหาคมเป็นเดือนที่ผู้คนนิยมการจับคู่ทริปท่องป่าซาฟารีเข้ากับการพักผ่อนริมชายหาดบริเวณเขตร้อนแซนซิบาร์ หรือไม่ก็การเดินป่าปีนเขาคิลิมันจาโรของประเทศแทนเซเนีย อากาศสบายๆ ในเดือนนี้ ช่างเอื้อต่อการชื่นชมการอพยพครั้งใหญ่ของฝูงวิลเดอบีสต์และม้าลายที่เดินทางไกลข้ามแม่น้ำไหลเชี่ยวเพื่อเข้ามาสู่พื้นที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่ายิ่งนัก ช่วงที่ดีที่สุดในการชมปรากฎการณ์ที่ยิ่งใหญ่นี้ คือต้นเดือนสิงหาคม เพราะเมื่อก้าวสู่ปลายเดือน จะเป็นเวลาที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ ข้ามชายแดนเพื่อมาพักอาศัยในเขตอุทยานเดียวกัน เมื่อทั้งประเทศกลับมาเป็นผืนป่าแห้งสีน้ำตาลแล้วนั้น การพบเห็นสัตว์ป่าก็ยิ่งเป็นไปได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะบริเวณที่ติดกับแหล่งน้ำ เพราะน้ำและอาหารจะกลายเป็นสิ่งที่ขาดแคลนมากกว่าเดิม
และเนื่องจากเดือนนี้ถือเป็นหนึ่งในเดือนที่อากาศหนาวเย็นที่สุดในเคนย่า เสื้อผ้าอบอุ่นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีในการเดินทางมาท่องเที่ยวเคนย่า ยิ่งเป็นบริเวณอุทยานที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูง (รวมถึงอุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า, ไลคิเปียและแซมบูรู) ด้วยแล้วนั้น อุณหภูมิยามค่ำคืนอาจลดลงเป็นเลขตัวเดียวได้บ่อยครั้ง และสำหรับท่านที่ต้องออกทริปส่องสัตว์ในช่วงเช้า ก็จะพบกับอากาศหนาวเย็นเช่นเดียวกัน ในขณะที่พื้นที่ทะซาโวฝั่งตะวันออก ฝั่งตะวันตก รวมถึงอุทยานแห่งชาติแอมโบเซลี จะเป็นบริเวณที่อากาศอบอุ่นกว่า แต่เสื้อคลุมสักตัวก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทางตอนเช้าตรู่อยู่ดี และเนื่องจากสิงหาคมเป็นเดือนที่เคนย่าคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว เราขอแนะนำให้ท่านทำการจองที่พักให้เรียบร้อยล่วงหน้าก่อนการเดินทางจะดีที่สุด
นี่เป็นอีกหนึ่งเดือนที่เหมาะสมแก่การมาเยือนเคนย่า ด้วยอากาศอันอบอุ่น สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพบเจอสัตว์ต่างๆ ตามพื้นที่อุทยาน รวมถึงลักษณะท้องฟ้าปลอดโปร่งตลอดทั้งวัน อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 25-30 องศาเซลเซียสในเวลากลางวัน และหนาวกว่านั้นในช่วงเช้าและเย็น บริเวณอุทยานแห่งชาติมาไซมาร่าและแซมบูรู อุณหภูมิอาจตกลงเป็นเลขตัวเดียวได้ในช่วงกลางคืนและเช้า ซึ่งให้ความรู้สึกหนาวยะเยือก ส่วนทางตอนเหนือของมาไซมาร่า ทั่วท้องทุ่งจะเต็มไปด้วยฝูงวิลเดอบีสต์และม้าลายที่มาอยู่รวมตัวกัน ณ จุดพักหลังการอพยพอันน่าตื่นตาตื่นใจครั้งใหญ่ ท่านอาจยังมีโอกาสพบเห็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางสายพันธุ์ที่เพิ่งเดินทางมาถึง แต่ส่วนใหญ่แล้ว เดือนกันยายนจะเป็นเดือนแห่งการพักผ่อนของพวกมัน สำหรับบริเวณอื่นๆ บรรดาต้นไม้ใบหญ้าเริ่มแห้งเหี่ยวเช่นเดียวกับที่ทั่วประเทศกำลังกลับเข้าสู่สภาวะแห้งแล้งอีกครั้ง แต่ในทางตรงกันข้าม นี่เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการได้พบกับห้าสัตว์ใหญ่แห่งแอฟริกา ยิ่งไปกว่านั้น เดือนกันยายนยังเป็นสวรรค์ของนักปีนเขาที่จะได้มาพิชิตยอดเขาคิลิมันจาโร ดังนั้น ท่านสามารถรวมการเดินทางอันน่าจดจำทั้งในเคนย่าและแทนเซเนียไว้ด้วยกันได้
ตุลาคมเป็นเดือนที่แสนวิเศษในการมาเยือนเคนย่า โดยเฉพาะสำหรับการทำกิจกรรมเกมส่องสัตว์ เพราะสภาพอากาศที่แห้งแล้งจะเป็นเหมือนการบีบบังคับให้บรรดาสัตว์ทั้งหลายต้องออกมาอยู่กระจุกกันตามแหล่งน้ำอันน้อยนิดที่หลงเหลืออยู่ มีโอกาสไม่น้อยที่ท่านจะได้เห็นเจ้าป่าอย่างสิงโตและตัวละมั่งยืนอยู่เคียงข้างกัน ส่วนบริเวณมาไซมาร่า การอพยพครั้งใหญ่ของเหล่าวิลเดอบีสต์และม้าลายเพื่อกลับสู่อุทยานแห่งชาติเซเรงเกติของแทนเซเนียกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นภาพปรากฎการณ์อันยิ่งใหญ่ที่ควรค่าแก่การมาสัมผัสด้วยตาสักครั้งในชีวิต และถึงแม้ว่าเดือนตุลาคมจะไม่ได้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากเท่ากับช่วงกับเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม แต่ที่พักในแถบอุทยานมาไซมาร่าก็มีสิทธิ์ที่จะถูกจองจนเต็มได้เหมือนกัน
อุณหภูมิสูงสุดในเดือนตุลาคมจะอยู่ที่ประมาณ 28-30 องศา ซึ่งบางครั้งอาจมีฝนตกบางๆ ในช่วงปลายเดือน ซึ่งเป็นผลอันเนื่องมาจากการที่ประเทศกำลังจะกลับเข้าสู่หน้าฝนระยะสั้นอีกครั้ง สายฝนอันชุ่มฉ่ำจะนำพานกพเนจรมารวมตัวกันที่นี่เฉกเช่นฤดูกาลที่แล้ว ทำให้ตุลาคมกลายเป็นอีกหนึ่งเดือนที่ดีสำหรับบรรดานักส่องนกเช่นกัน
พฤศจิกายนคือเดือนที่สามารถคาดเดาอากาศได้ยากที่สุด โดยทั่วไปมักจะมีฝนตกเพราะเดือนนี้ถือเป็นช่วงฤดูฝนระยะสั้นของเคนย่า และถึงแม้ว่าฝนจะตกหนัก แต่ส่วนใหญ่จะตกเพียงระยะสั้นๆ ไม่กี่ชั่วโมง หลังจากนั้นแล้วสภาพอากาศในเวลาอื่นๆ ของวันก็จะกลับมาเป็นท้องฟ้าสดใสพร้อมไอแดดอันอบอุ่นเช่นเคย ระดับความชื้นในเดือนพฤศจิกายนนั้นมีค่อนข้างสูง และอุณหภูมิตอนกลางวันจะอยู่ที่ประมาณ 23-27 องศาเซลเซียส
ที่พักสไตล์แคมป์ปิ้งบางแห่งจะปิดทำการซ่อมแซมในเดือนนี้ (เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับไฮซีซั่นในเดือนธันวาคมและมกราคมที่กำลังจะมาถึง) แต่หลายแห่งที่ยังคงเปิดทำการตามปกติก็จะไม่ค่อยคึกคักเท่าไรนัก ในขณะเดียวกัน ฝูงวิลเดอบีสต์กลุ่มสุดท้ายในบริเวณมาไซมาร่าจะทะยอยออกเดินกลับสู่ทุ่งหญ้าเซเรงเกติในช่วงเวลานี้
ในช่วงต้นเดือนธันวาคม เคนย่าจะยังคงมีฝนตกอยู่ประปราย ถือเป็นฤดูฝนสั้นๆ ก่อนที่ปริมาณน้ำฝนจะลดลงช่วงกลางเดือน และนำพาเอาความเขียวชอุ่มกลับมาสู่ทุกพื้นที่อีกครั้ง อุณหภูมิในเดือนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 20 องศา สูงสุดที่ 25 องศาและมีอากาศเย็นบริเวณอุทยานแห่งชาติและเขตสงวนต่างๆ ในยามที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว นักเดินทางควรเตรียมเครื่องแต่งกายให้อบอุ่นสำหรับการออกเล่นเกมส่องสัตว์ตอนเช้าเพราะอุณหภูมิอาจลดลงต่ำถึง 12 องศาเลยทีเดียว หลังจากผืนแผ่นดินกลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง ธันวาคมถือเป็นเดือนที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวแบบซาฟารี เพราะนอกจากจะได้เห็นบรรดาสัตว์ป่าดำเนินชีวิตกันตามธรรมชาติอย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยพลังล้นเหลือจากแหล่งอาหารที่พอเพียงแล้ว โอกาสในการพบเจอฝูงนกอพยพจากยุโรปที่กำลังเดินทางกลับบ้านโดยใช้เคนย่าเป็นทางผ่าน ก็จะมีสูงกว่าปกติด้วย
ช่วงปลายเดือนจะเป็นเวลาที่เคนย่าคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนช่วงเทศกาลคริสมาสต์ โรงแรมและที่พักต่างๆ จะถูกจองและเต็มอย่างรวดเร็ว หากท่านมีแผนการเดินทางมาเยือนเคนย่าในช่วงปลายเดือนธันวาคมเช่นนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจองโรงแรมล่วงหน้าก่อนเป็นเวลานาน เพราะอากาศสบายๆ บวกกับโอกาสที่ดีในการพบเจอความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติในการท่องซาฟารี เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ต้องการในเทศกาลแห่งความสุขอย่างคริสมาสต์และปีใหม่กันทั้งนั้น นอกจากนี้แล้ว ธันวาคมยังถือเป็นเวลาที่เหมาะสมในการไปเยือนชายหาดและบริเวณป่าเขตร้อนแซนซิบาร์อีกด้วย เพราะน้อยครั้งที่ท่านจะได้เจอกับฝนตก และไหนจะแสงแดดอุ่นๆ ริมทะเลที่รอต้อนรับท่านอยู่อีก ช่างเป็นช่วงเวลาที่สวยงามเหลือเกิน
ปรึกษาทีมงาน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและวางแผนทริปสุดพิเศษของท่านด้วยความช่วยเหลือจาก
ผู้เชี่ยวชาญ โทร 0117 313 3300